R3 หรือที่มักจะเห็นเรียกกันว่า R3CEV เป็นบริษัทด้าน blockchain ที่สำคัญแห่งหนึ่ง
บทบาทหลักของ R3CEV ที่เราเห็นในตอนนี้คือเป็นผู้นำกลุ่มสถาบัน (Consortium) ด้านการเงิน ที่กำลังออกแบบ distributed ledger สำหรับตลาดการเงินของโลก
ตลาดการเงิน ก็คือตลาดที่ซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน (financial asset) ต่างๆ เช่น หุ้น หุ้นกู้ เงินตราต่างประเทศ และอนุพันธ์ต่างๆ
ตลาดการเงิน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เห็นได้ชัดว่าสามารถใช้ประโยชน์จาก blockchain ได้มาก เนื่องจากมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นเป็นปริมาณมากทุกวัน ต้องการความรวดเร็ว และต้องการความปลอดภัยสูง ด้วยความต้องการพวกนี้ทำให้ขั้นตอนการ reconcile transaction มีความสำคัญมาก และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
Consortium ที่ R3 เป็นผู้ประสานงานอยู่นั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2015 และปัจจุบันมีสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของโลกเป็นสมาชิกจำนวนมาก ก็เลยมีโอกาสสูง ที่ผลลัพธ์ของกลุ่มนี้จะได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบตลาดการเงินในอนาคต
Corda
Distributed Ledger Platform ของ R3 Consortium ที่ชื่อว่า Corda ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้ในการจัดการสัญญาทางการเงินระหว่างสถาบัน (เช่น ธนาคาร A มีเงินฝากอยู่กับธนาคาร B หนึ่งล้านบาท, บริษัทหลักทรัพย์ C เป็นคู่สัญญา Credit Default Swap กับธนาคาร D โดยมีรายละเอียดคือ…) โดยปรับใช้เทคโนโลยี blockchain ให้เหมาะกับความต้องการของตลาดการเงินมากขึ้น เช่น
- ให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าถึงรายละเอียดของสัญญา (จาก blockchain ปกติที่ทุกคนใน blockchain สามารถเห็นรายละเอียดได้ทุก block)
- ยังคงไม่ต้องมี central exchange
- แต่ละ transaction ให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง (เช่น คนซื้อ กับ คนขาย) validate ก็พอ
- แต่ให้หน่วยงานกำกับ (regulator) สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ ด้วย observer node
เราสามารถมองคุณสมบัติสำคัญของ blockchain 5 อย่างเพื่อทำความเข้าใจจุดที่ R3 Corda มีความต่างออกไปจาก blockchain ทั่วไปหรือ Etherium
Normal Blockchainn | R3 Corda | |
Consensus | ทุกๆ party มีข้อมูลที่ทุกคนเห็นตรงกัน (สำหรับ Bitcoin ข้อมูลนี้ก็คือจำนวน Bitcoin ที่มีอยู่ในแต่ละกระเป๋า) |
ผู้เกี่ยวข้องของแต่ละสัญญา (เช่น ผู้กู้ ผู้ให้กู้ ผู้ค้ำประกัน) มีข้อมูลที่แต่ละฝ่ายเห็นตรงกัน (รายละเอียดของสัญญา) |
Validity | Block ใหม่ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Chain จะต้องถูก Validate ก่อน โดยกฎของการทำ validation ก็จะต่างกันไปตามความต้องการของ Blockchain นั้นๆ แต่เป็นกฎที่ใช้ร่วมกัน | แต่ละสัญญาสามารถใช้ validation rule ที่ต่างกันได้ ตามความจำเป็นของแต่ละฝ่าย และ validation rule เป็นระดับสัญญา ไม่ใช่ระดับคู่สัญญา |
Uniqueness | ถ้ามี block ใหม่สอง block ที่ valid ทั้งคู่ แต่ขัดกันเอง ระบบจะต้องมีวิธีการเลือกว่า block ไหนจะได้เป็นส่วนหนึ่งของ chain ในขณะที่อีก block หนึ่งก็จะตกไป | Corda ก็ใช้คอนเซป uniqeness เหมือน blockchain ทั่วไป แต่ยอมให้ optimize เพื่อความต้องการที่ต่างกันได้ เช่น ต้องการ Availability สูง หรือต้องการ Consistency สูง |
Immutability | ข้อมูล block ไหนกลายเป็นส่วนหนึ่งของ chain ่แล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ | ในด้านนี้ Corda ทำงานเหมือน blockchain ทั่วไป |
Authentication | ทุกๆ การกระทำที่เกิดขึ้นบน blockchain ต้องถูกยืนยันตัวตนก่อนด้วย private key | ในด้านนี้ Corda ทำงานเหมือน blockchain ทั่วไป |
จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงวิธีการที่ Corda เลือกที่จะใช้แก้ปัญหา “ความลับไม่มีบน blockchain” คือการเลือกให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเฉพาะระหว่างผู้เกี่ยวข้องของแต่ละสัญญา แทนที่จะเลือกการใช้ encryption ล้อคข้อมูลให้เฉพาะผู้เกี่ยวข้องสามารถอ่านได้
นอกจากนี้ รายละเอียดสัญญาที่ทำบน Corda แบบอิเลคโทรนิก จะผูกไว้กับภาษาทางกฎหมาย (Legal Prose) อย่างชัดเจนเพื่อให้สามารถบังคับใช้ได้จริง
Update: ตอนนี้ R3 กำลังศึกษาร่วมกันกับ ISDA เพื่อให้สามารถย้าย ISDA Agreement ต่างๆ มาทำงานบน blockchain ได้ในที่สุด
สมาชิก R3 Consortium
- Banco Santander
- Bank Itau
- Bank of America
- Barclays
- BBVA
- BMO Financial Group
- BNP Paribas
- BNY Mellon
- Citi
- Commerzbank
- Commonwealth Bank of Australia
- Credit Suisse
- Danske Bank
- Deutsche Bank
- Goldman Sachs
- Hana Financial
- HSBC
- ING
- Intesa Sanpaolo
- J.P. Morgan
- Macquarie Group
- Mitsubishi UFJ
- Mizuho Bank
- Morgan Stanley
- National Australia Bank
- Natixis
- Nomura
- Nordea
- Northern Trust
- OP Financial Group
- Ping An Group
- Royal Bank of Canada
- Royal Bank of Scotland
- SBI Holdings
- Scotiabank
- Skandinaviska Enskilda Banken
- Société Générale
- State Street
- Sumitomo Mitsui Banking Corporation
- The Canadian Imperial Bank of Commerce
- Toronto-Dominion Bank
- U.S. Bancorp
- UBS
- UniCredit
- Wells Fargo
- Westpac